F3IN.K & PANCHIE001
“พี่แจน หลังไปโดนไรมาอะ?”
เจตสุภาเอี้ยวตัวหันไปมองต้นเสียง เลิกคิ้วใส่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับ มีเพียงรอยยิ้มที่มุมปากถูกส่งไปให้พัศชนันท์เท่านั้น เสื้อเซเลอร์สีขาวปกน้ำเงินถูกสวมลงมาปิดบังรอยแผลซึ่งเริ่มตกสะเก็ดเป็นทางยาวตั้งแต่ไหล่ไปจนถึงแถวสะโพก เจ้าของคำถามขมวดคิ้วมุ่นเมื่อคนโตกว่าไม่ยอมเอ่ยคำพูดใดออกมาเป็นเชิงตอบรับ น้ำเสียงต่อมาจึงกดเข้มเจือความหงุดหงิดอย่างไม่คิดจะปิดบัง
“ยิ้มงั้นหมายความว่าไง?”
“เปล่า”ถึงจะพูดไปอย่างนั้นแต่รอยยิ้มน้อยๆบนริมฝีปากกลับยังไม่ยอมคลายลง ดวงตากลมพราวระยับเหมือนจะนึกขำขันเมื่อเเกล้งปั่นหัวรุ่นน้องในวงได้สำเร็จ อันที่จริงก็ไม่ได้ตั้งใจไม่ตอบ แต่เหตุผลพวกนั้นใครจะสามารถมานั่งประกาศปาวๆได้กัน แจนเลยนึกป่วนให้อีกฝ่ายเบี่ยงเบนความสนใจจากมันไปเสียเอง
“ไม่รีบแต่งตัวล่ะ แล้วนั่นอะ ทำไมเล็บฉีกแบบนั้น?”
คราวนี้คนถามกลับเป็นฝ่ายเงียบแทน
“ว่าไง? หื้มมม?”ลำแขนเรียวท้าวลงบนขอบอ่างล้างมือทั้งที่ไม่ยอมติดกระดุมชายเสื้อให้เรียบร้อยนัก เอียงคอน้อยๆเมื่อเริ่มรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายชักจะรู้ทันเธอมากขึ้นไปทุกที
“ไม่มีอะไรแล้ว…”
“แน่ใจ?”ยังมิวายหยอกเย้าจนอีกฝ่ายต้องลงมือฟาดเพี๊ยะลงบนเเผ่นหลังพอให้เจ้าตัวร้องโอดโอย เมื่อความรู้สึกเเสบเเล่นปราดไปทั่ว แจนส่งค้อนวงใหญ่ให้อรอย่างไม่ปิดบัง มือลูบหลังตัวเองป้อยๆ ปากก็เริ่มบ่นกระปอดกระแปดไม่ยอมหยุด ในห้องน้ำเหลือพวกเธออยู่กันแค่สองคน แก้ว เนย และน้ำหนึ่งออกไปรอข้างนอกกันหมดแล้ว อรยังจะมานั่งสงสัยอะไรเธออีก
“เจ็บนะโว้ย! ฟาดมาได้!”
“เอ้า งั้นก็บอกมาก่อนว่าไปโดนอะไรมา” พัศชนันท์พูดพลางพยักเพยิดหน้าไปยังหลังของอีกฝ่าย เเต่ก็ได้รับเพียงท่าทีอึกอักไม่ยอมตอบเรื่องที่ค้างคาอยู่กลับมาอีกตามเคย ตากลมโตหรี่ลงอย่างตั้งแง่กับคนเป็นพี่ “ถ้าไม่มีอะไรพี่ก็ตอบมาสิ”
“…โดนแมวข่วน”
“แมว? จริงเร้อ….เเล้วทำไมไม่เคยบอกอรว่าพี่เลี้ยงแมว”
“เลี้ยง ตัวใหญ่มาก ดื้อมาก อารมณ์ร้ายด้วย” แจนกลอกตาไปมาก่อนจะพูดเสริมเข้าไปอีกเป็นการบอกกลายๆ ถ้าเรื่องแค่นี้อรคิดไม่ออกก็คงไม่ใช่น้องของเชเช่แล้ว มือขยับติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย เช็คสภาพตัวเองในกระจกพลางจัดปกเสื้อให้เข้าที่เข้าทาง นึกถึงเมื่อคืนวานที่เจ้าเหมียวของเธอเอาแต่ข่วนหลังจนมันกลายเป็นยันต์ห้าแถวไปแล้ว รู้สึกมีความสุขอยู่หรอกที่ได้เห็นแมวยักษ์ยอมจำนนแต่แลกมาด้วยการโดนข่วนแบบนี้ช่างไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย
“ไปกันเถอะ ป่านนี้ป้าบ่นใหญ่แล้ว”
“ค่า”
.
.
.
“ชักช้า”
ขายังไม่ทันก้าวพ้นจากประตูห้องน้ำก็มีเสียงทักไล่มาแต่ไกล ณัฐรุจายืนกอดอกมองหญิงสาวตัวสูงกว่าทั้งสองคนซึ่งส่งยิ้มแหยๆมาให้ แก้วก้าวเข้ามาประชิดตัวคนซึ่งอายุเท่ากันแต่ดันชอบทำตัวเป็นเด็กอยู่เรื่อย ตากวาดไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าสำรวจความเรียบร้อยของเขา มือเรียวแตะลงบนไหล่ของอีกฝ่ายแล้วดันกลับเข้าไปในห้องน้ำ
“พี่ขอตัวแจนแปปนึงนะ พวกเธอไปก่อนเลย”
สิ้นคำพูดนั้นหญิงสาวตัวเล็กก็ได้หาสนใจอีกสามคนที่เหลือไม่ แก้วจับมือแจนพาเดินไปยังห้องน้ำห้องสุดท้าย หลังจากล็อกประตูแล้วหล่อนจึงลองแตะมือลงบนหลังของคนตังสูงแผ่วเบา ใบหน้าของเขาแสดงออกชัดเจนถึงความเจ็บปวดซึ่งยังหลงเหลืออยู่ แมวยักษ์แอบหน้าเสียเล็กน้อย ดีที่เธอพกยามาด้วย รู้อยู่แล้วว่าคนอย่างเจตสุภาต้องไม่ยอมทายามาแน่ๆ
“แจน เลิกเสื้อขึ้น” แก้วออกคำสั่งเสียงเบา มือควานหาหลอดยาในกระเป๋ากระโปรง เงยหน้าขึ้นมาอีกทีอีกฝ่ายก็ยังคงไม่ขยับตัว อิดออดไม่ยอมทายาโดยง่ายให้คนตัวเล็กกว่าต้องถอนหายใจออกมาเบาๆกับความดื้อดึงเอาแต่ใจของคนอายุเท่ากัน
“เร็วแจน เดี๋ยวก็ทำคนอื่นเขาสายกันหมด..” ถ้อยคำติดดุทำให้ท้ายที่สุดเจตสุภาก็ต้องยอมเลิกเสื้อขึ้นจนได้ ณัฐรุจาบีบยาออกมาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆบรรจงแตะแต้มมันลงไปทีละนิดๆอย่างเบามือ เจ้าของแผ่นหลังสะดุ้งโหยงทันทีที่ผิวขาวส่วนที่เกิดร่องรอยตำหนิเป็นทางยาวสัมผัสกับเนื้อยา ความเย็นวาบไล้ไปตามทุกจุดที่มีบาดเเผลชวนให้เจตสุภาสูดปาก กรามถูกกัดเเน่นพยายามไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกไปมากกว่าการกระซิบ ถึงเเม้มันจะช่วยอะไรไม่ได้มากนักในสถานการณ์แบบนี้ก็ตาม
“ยังแสบอยู่หรอ?..”
“แสบสิ..ใครใช้ให้ป้าข่วนหนูมาซะเต็มแรงล่ะ” เพราะคำพูดนี้ของเขาแท้ๆทำให้มีสีแดงระเรื่อแต่งแต้มบนใบหน้าของแก้ว หล่อนยิ่งกดเเรงป้ายยาเพิ่มไปอีกด้วยความหมั่นไส้ เรียกเสียงร้องโอดโอยจากแจนได้เป็นอย่างดีจนคนตัวสูงต้องไล่จับเเขนของอีกฝ่ายเป็นพัลวันไม่ให้ทำร้ายร่างกายเขาไปมากกว่านี้
“เงียบไปเลย..”
“แต่เมื่อคืนป้าไม่เจ็บใช่มั้ย?”
“อือ..”
แก้วหย่อนหลอดยาลงเก็บยังกระเป๋าประโปรงที่เดิม ค่อยๆดึงเสื้อของแจนลงมาไม่ให้มันเปื้อนเนื้อยาที่หล่อนเพิ่งทาลงไปให้เขา ทีนี้จะได้รีบไปที่ตู้ปลาซักที แต่ยังไม่ทันได้ปลดล็อกกลอนประตู คนตัวสูงก็คว้ามือของเธอไปเสียก่อน เขาหลุบตาลงอยู่ครู่หนึ่ง แจนไม่ได้ปล่อยมือออกไปอย่างที่แก้วคิด ทว่ากลับก้มลงจรดริมฝีปากลงบนหลังมืออย่างแผ่วเบา สัมผัสนุ่มนวลค่อยๆเเตะจูบไล่ไปทีละนิ้วเล่นเอาหญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มเริ่มทำตัวไม่ถูก ใบหน้าเห่อร้อนผะผ่าว
“ทำอะไรเนี่ย..”
“หนูว่า..” เว้นคำพูดเอาไว้เพื่อที่ตัวเองจะได้เงยหน้าขึ้นมาช่วงชิงริมฝีปากจากอีกฝ่ายโดยที่หล่อนไม่ทันได้ตั้งตัว เเรงชะงักเล็กๆกับพวงเเก้มที่ขึ้นสีระรื่อทำให้เจตสุภาหัวเราะคิกอย่างถูกอกถูกใจกับปฏิกิริยาตอบกลับของณัฐรุจาก่อนจะพูดต่อ “..ป้าน่าจะตัดเล็บบ้างนะ หนูตัดให้มั้ย?”
“ก็เพิ่งตัดไปไง”
“แต่มันยังยาวอยู่เลย”
“อะไรนักหนาเนี่ย ฮึ?” แก้วเลิกคิ้ว มือถูกดึงออกมาจากการเกาะกุม เปลี่ยนเป็นประคองใบหน้าคนตัวสูงเอาไว้แทน หล่อนเขย่งปลายเท้าขึ้นไปมอบจูบแผ่วเบาเป็นการเอาคืนคนที่ชอบทำเป็นฉวยโอกาสอยู่เรื่อย “ยุ่งจัง จะตัดก็ตัด”
พอแมวยักษ์อนุญาตแล้วเจตสุภาก็ลอบยิ้ม
จะตัดให้เหี้ยนเลยคอยดู